เข้าประเด็นตามหัวข้อกันเลย ยิง Ads Facebook อย่างไรให้เพิ่มยอดขาย โดยเฉพาะในภาวะที่แทบทุกร้านอาหารต้องเข้าสู่การแข่งขันสูงในตลาด Delivery จะทำอย่างไรให้ร้านเรา ออเดอร์เรา เป็นที่รู้จักและถูกเลือก การตลาดออนไลน์โดยเฉพาะการยิงแอดFacebook คือตัวช่วยสำคัญที่ทุกร้านอาหารจำเป็นต้องรู้และต้องทำ ถ้าใครยังไม่รู้บทความนี้ช่วยท่านได้ ไปเริ่มกันเลย
ทำไมต้องยิงแอด
“ยิงแอด” เป็นภาษาพูดที่หมายถึงการซื้อโฆษณาเพื่อโปรโมทโพสต์หรือ Content บนเฟซบุ๊กแฟนเพจของร้าน เพื่อเพิ่มโอกาสให้โพสต์หรือ Content นั้น ๆ เป็นที่รู้จักของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก ที่ปัจจุบันในประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊กอยู่ประมาณ 480,000,000 บัญชี ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนประชากรที่เยอะมาก ๆ
ลองคิดดูว่า หากเป็นการโฆษณารูปแบบเก่าคือ ต้องซื้อเวลา ซื้อพื้นที่บนสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หรือ หนังสือพิมพ์ เพื่อให้สินค้าของเราเป็นที่รู้จักซึ่งต้องใช้งบประมาณหลักแสน หลักล้านบาทต่อนาที ต่อครั้งโดยที่เราไม่สามารถเจาะจงได้เลยว่าต้องการให้โฆษณาสินค้าของเราเข้าถึงคนกลุ่มไหน แต่การยิงแอดเฟซบุ๊กทำได้! และใช้งบประมาณที่น้อยกว่ามาก เราในฐานะเจ้าของสินค้าสามารถบริหารจัดการงบประมาณได้เอง เลือกได้ว่าต้องการให้สินค้าเราโฆษณาเมื่อไหร่ ให้ใครเห็นบ้าง
ความแตกต่างของการยิงแอดแบบ BOOST POST กับ Ads Manager คืออะไร
BOOST POST หรือ โปรโมทโพสต์ ซึ่งเป็นวิธียิงแอดวิธีหนึ่งที่ทางเฟซบุ๊กออกแบบมาให้ใช้งานง่าย แค่กดคลิกไม่กี่ขั้นตอนเงินก็พร้อมถูกตัดออกจากบัญชีที่เราผูกไว้กับเฟซบุ๊กเพื่อใช้ในการยิงแอด
การ BOOST POST จึงไม่ใช่วิธีที่ผิด! เพียงแต่วิธีนี้ประสิทธิภาพอาจจะต่ำ ความแม่นยำในกลุ่มเป้าหมายมีน้อย มีข้อจำกัดในการจัดการแผนโฆษณา งบโฆษณาที่จ่ายไปอาจไม่คุ้มค่า และที่สำคัญคือ เฟซบุ๊คมีเครื่องมือให้ใช้ในการยิงแอดที่มีประสิทธิภาพดีกว่า แม่นยำกว่า การ BOOST POST
นั่นก็คือ Ads Manager หรือ เครื่องมือจัดการโฆษณา เป็นเครื่องมือที่เฟซบุ๊กออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กแฟนเพจทุกคนสามารถวางแผนจัดการงบประมาณสำหรับการยิงแอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้แม่นยำ มีเครื่องมือช่วยในการวัดผลลัพธ์เพื่อปรับเปลี่ยนแผนยิงแอด แต่การใช้เครื่องมือ Ads Manager ต้องทำบนคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค หรือ แท็บเล็ต ทำให้หลายคนไม่สะดวก จึงทำให้เสียโอกาสในการยิงแอดที่ดีไป
สรุปจุดเด่นของเครื่องมือ Ads Manager ที่แนะนำให้ใช้สำหรับยิงแอดทุกกรณี
- เลือก Campaign Objective ได้หลายประเภท แต่ละประเภทให้ผลลัพธ์ต่างกัน
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียด จำกัดขนาดกลุ่มเป้าหมายได้ตามต้องการ
- ใส่ Ad Set (ชุดโฆษณา) หลายกลุ่มใน Campaign เดียว
- ใส่ Ad (โฆษณา) หลายชิ้นใน Ad Set เดียว
- สร้าง Custom Audience กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง
- สร้าง Lookalike Audience กลุ่มเป้าหมายแบบคล้ายคลึง
จริง ๆ ทำได้มากกว่านี้ แต่เฉพาะจุดเด่นเหล่านี้ก็เหนือกว่าการ BOOST POST หลายเท่า มันคือการรวมเครื่องมือที่นักการตลาดมืออาชีพยังต้องร้องขอชีวิต
ธีการเลือกกลุ่มเป้าหมาย ให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่ “แท้จริง” จากที่ตั้งร้าน
ในการยิงแอดเฟซบุ๊กให้ได้ผลลัพธ์จะเป็นยอดซื้อ ยอดการติดตาม หรือ ยอดการแชร์ก็ตาม มีองค์ประกอบการสำคัญมาก ๆ อยู่ 2 ตัว นั่นคือ
1. ความน่าสนใจของ Content
2. การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ
ซึ่งในเรื่อง Content นั้นเราขอยังไม่พูดถึงก่อน เราจะมาโฟกัสกันในเรื่องกระบวนการยิงแอดและแนวคิดในการเลือกกลุ่มเป้าหมาย
ทำไมการเลือกกลุ่มเป้าหมายจึงมีความสำคัญต่อการยิงแอดมาก ถ้าคิดว่าเมนูอาหารของร้านเราเหมาะกับทุกคนทั่วประเทศ การจะยิงแอดให้โฆษณาเมนูอาหารของเราให้ไปแสดงบนหน้าฟีดเฟซบุ๊กทั้ง 48 ล้านบัญชี คงต้องใช้งบประมาณมากกว่าหลักแสนบาทต่อวัน!
และในความเป็นจริงแล้วเป็นไปได้ยากที่ 48 ล้านบัญชี จะเป็นลูกค้าเราได้ทั้งหมด ร้านอยู่กรุงเทพฯ โฆษณาไปแสดงบนฟีดเฟซบุ๊กผู้ใช้งานอยู่เชียงรายก็คงยากที่คน ๆ นั้นจะเดินทางมาซื้อของเรา หรือ ต่อให้อยากกินมาก ๆ เราก็อาจไม่สามารถส่งเดลิเวอรีไปให้ได้ การเลือกกลุ่มเป้าหมายจึงมีความสำคัญมากทั้งแง่ของการมีงบประมาณจำกัด และเพื่อต้องการผลลัพธ์ที่ดีในการยิงแอด
แนวคิดในการเลือกกลุ่มเป้าหมาย
คนส่วนใหญ่เวลายิงแอดมักจะเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง กำหนดแค่อายุ เพศ การศึกษา พื้นที่อาศัย แต่สิ่งที่หลายคนลืมคิดถึงไปซึ่งสำคัญมากก็คือ พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ว่าชอบอะไร ใช้ชีวิตแบบไหน เรียกว่าเป็นกระบวนการวางแผนโฆษณา ที่เจ้าของร้านอาหารจะใช้เวลากับส่วนนี้มากเป็นพิเศษ เพราะถ้าผ่านกระบวนการนี้ไปได้แล้ว ขั้นตอนอื่น ๆ ก็ไม่มีอะไรยาก
ยกตัวอย่าง กลุ่มเป้าหมายเพศหญิง อายุ 25-34 ต้องวิเคราะห์ต่อว่า คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มชอบอะไร สนใจเรื่องอะไรบ้าง เช่น ชอบดู Netflix korea drama กลุ่มนี้มีความเป็นไปได้ที่จะติดและดูซีรี่นาน ๆ ดูแบบยิงยาวจนจบซีซั่น มีโอกาสสั่งอาหารของกินเดลิเวอรี่สูง เพราะไม่อยากลุกไปทำอาหารกินเอง ไม่อยากขาดตอน เราก็จะได้ Netflix korea drama 1 ชุด เพื่อเอาไปใช้กับเครื่องมือค้นหากลุ่มเป้าหมายของเฟซบุ๊กในAds Manager
นอกจากชอบดู Netflix แล้ว ยังมีอะไรอีกบ้างที่คาดว่า เพศหญิง อายุ 25-34 ส่วนใหญ่จะนิยมกัน ทำแบบนี้ทุกหัวข้อที่เราคิดว่ากลุ่มนี้สนใจอยู่ เราก็จะได้ Keyword ที่จะนำไปใช้กับเครื่องมือค้นหากลุ่มเป้าหมายของเฟซบุ๊กอยู่ใน Ads Manager
Keyword เหล่านี้จะทำให้โอกาสที่โฆษณาของเราไปแสดงอยู่บนหน้าฟีดเฟซบุ๊กของกลุ่มเป้าหมายนี้แม่นยำขึ้น เพราะว่ากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ก็มักจะค้นหา ติดตามกดไลค์ กดแชร์เรื่องราว ๆ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ Keyword ที่เราได้มาจากขั้นตอนวางแผนโฆษณานี้